ฉีดไขมัน หน้า เด็ก ปรับรูปหน้าให้สวย
ด้วยเทคนิคเฉพาะของหมอปี
ช่วงนี้เห็นเค้าปรับรูปหน้าด้วยการ ฉีดไขมัน หน้า หลายคนคงสงสัยว่าฉีดไขมันเค้าทำกันยังไง
ฉีดเพื่ออะไร อย่างเราจะเหมาะที่จะฉีดไขมันมั้ย กรณีไหนที่ควรทำและกรณีไหนไม่ควรทำ หมอปีจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
ฉีดไขมัน คืออะไร
ฉีดไขมัน ภาษาอังกฤษ เราเรียกว่า Fat transfer
ฉีดไขมัน คือ การที่เรานำเอาไขมันของเราเองออกมาจากส่วนนึงของร่างกาย แล้วนำไปใส่อีกส่วนหนึ่ง เพื่อเติมเต็มพื้นที่บริเวณนั้น เช่น ฉีดไขมัน หน้า แก้ไขปัญหาหน้าตอบ, ฉีดไขมัน หน้าอกเพื่อให้หน้าอกเต่งตึงขึ้น ไขมันที่ใช้ต้องเป็นไขมันของตัวคนไข้เอง ไม่สามารถใช้ไขมันของคนอื่นแทนได้
1. ตรวจประเมินเลือกพื้นที่ที่จะดูดไขมันออก และบริเวณที่จะฉีดไขมัน
ก่อนการผ่าตัดหมอจะประเมินเลือกไขมันส่วนเกินที่จะมาใช้ และประเมินรุปหน้าเพื่อดูว่าขาด Volume ที่บริเวณไหนบ้าง จะต้องใช้ไขมันเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอในการแก้ปัญหา
2.การนำไขมันออกจากร่างกาย
ขั้นตอนนี้ก็คือ การดูดไขมันนั่นเอง
แต่จะมีกระบวนการที่แตกต่างจากการดูดไขมันปกติคือ จะต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อรักษาสภาพเซลล์ไขมันให้ตายน้อยที่สุด แทนการดูดไขมันให้ได้ปริมาณมากที่สุด ดังนั้นใครที่คิดว่าทำฉีดไขมัน คุ้มมาก ได้ทั้งดูดไขมันทิ้งทำให้สัดส่วนดี แล้วก็ได้หน้าสวยเพราะเอามาเติม ต้องอ่านให้จบก่อนนะค๊า โดยส่วนใหญ่แล้วหมอจะไม่ได้ดูดไขมันจนหมดนะคะ บางทีก็จะเหลือไว้เผื่อจะต้องเติมครั้งหน้าด้วยซ้ำ เพราะอะไรเดี๋ยวหมอจะเฉลยให้ฟังอีกทีค่ะ
3.การเตรียม-แยกไขมัน
หลังจากที่เราดูดไขมันออกมาแล้วจะยังไม่ใช่ไขมันบริสุทธิ์ จำเป็นจะต้องนำมาทำการแยก เอาเซลล์ไขมันที่แตกแล้วออก รวมถึงยาชาต่างๆออกด้วย ใช้วิธีการปั่นแยก อย่างที่คลินิกหมอก็จะมีเครื่องปั่นแยกไขมันโดยเฉพาะเลยค่ะ เพื่อให้ได้ไขมันที่ดีจริงๆออกมา
4.นำไขมันกลับมาฉีดที่บริเวณที่ต้องการ
การฉีดไขมันเราทำได้หลายที่ เช่น บริเวณใบหน้า ทั้งหน้าผาก แก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา คาง เป็นต้น หรือจะเป็นที่ตัวเช่น หน้าอก สะโพก ก็ฉีดไขมันได้ค่ะ
การฉีดไขมันก็จะมีเทคนิคเฉพาะที่ทำให้ไขมันติดดี แตกต่างกันไปค่ะ อย่างที่หมอทำจะเลือกใช้การฉีดแบบ PRP Fat คือนำเอา PRP หรือ Platelet rich plasma มาผสมให้ไขมันติดดีขึ้น (คำว่าไขมันติดดีก็คือ หลังจากฉีดไปแล้วไขมันยังรอดชีวิตอยู่ในบริเวณที่เราฉีดไปค่ะ)
ฉีดไขมัน หน้า สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
เราสามารถใช้ไขมันของเราเอง มาปรับแก้ไขปัญหารูปหน้าได้ตามบริเวณต่างๆดังนี้
ฉีดไขมัน ใต้ตา
ปัญหารอบดวงตาเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนมากๆ เช่น
ริ้วรอยตีนกา เกิดจากกล้ามเนื้อรอบดวงตาทำงานมากเกินไป
ปัญหาหนังตาตก เกิดจากผิวหนังส่วนเปลือกตาบนหย่อนคล้อย
ปัญหาถุงใต้ตา ก็เกิดจากความหย่อนคล้อยและไขมันบริเวณถุงใต้ตามีมากเกินไป
ปัญหาใต้ตาลึก เป็นปัญหารอบดวงตาอย่างนึงที่สามารถใช้การฉีดไขมันช่วยบรรเทาได้
เราสามารถเช็คจากภาพมุมข้างของเราถ้าใต้ตาเราลึกลงไปเป็นร่อง ต่ำกว่าหน้าแก้ม แสดงว่าเรามีปัญหาใต้ตาลึกที่ควรแก้ไขด้วยการเติมค่ะ
แต่ถ้าใต้ตาป่องออกมาเกินหน้าแก้มแสดงว่า ใต้ตาของเราเป็นถุงใต้ตา ต้องผ่าตัดแก้ไขค่ะ ซึ่งบางคนอาจมีได้ทั้ง 2 อย่าง เริ่มสับสนมั้ยคะ ถ้าสงสัยจริงๆว่าเรามีปัญหาอะไร ทักมาสอบถามกันได้ค่ะ จะได้เลือกวิธีการรักษาได้อย่างตรงจุดในแต่ละปัญหารอบดวงตานะคะ
ฉีดไขมัน ขมับ
ขมับตอบ เป็นอาการนึงที่เจ้าตัวคนไข้มักจะไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะขมับอยู่บริเวณด้านข้าง ตั้งแต่ด้านข้างของคิ้วไปไรผม ทำให้คนไข้เองสังเกตได้ยาก ขมับตอบเป็นตัวการที่ทำให้หน้าหย่อนคล้อยได้ด้วยนะคะ
กระซิบอีกนิดนึงว่าถ้าขมับตอบ ขมับเป็นเนินคู่ครอง ให้เนื้อเต็มไว้เค้าว่าโหงวเฮ้งเกี่ยวกับคู่ครองจะดีค่า ใครตอบรีบมาฉีดเลยนะ
แก้มตอบ ฉีดไขมัน แก้ไขได้
ส่วนใหญ่แล้วเมื่อแก้มตอบจะทำให้หน้าดูเล็กก็จริงแต่ก็ทำให้หน้าดูโทรมและหน้าดุได้เพราะเห็นโครงใบหน้าชัดขึ้น การมีแก้มเล็กน้อยจะทำให้หน้าดูหวาน ดูเด็กค่ะ ใครที่แก้มตอบก็อาจจะพิจารณาฉีดไขมันแก้มตอบดูได้นะคะ
นอกจากนี้ยังมีการนำไขมันมาฉีดตามร่างกายด้วย เช่น ฉีดไขมันหน้าอก ฉีดสะโพก เป็นต้น แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันกับการฉีดไขมันที่ใบหน้า
ฉีดไขมัน ปาก ฉีดได้หรือไม่
จริงๆแล้วเราสามารถฉีดไขมันได้แทบทุกบริเวณบนใบหน้าเลยค่ะ แต่จะมีการฉีดบริเวณริมฝีปาก กับบริเวณหน้าตาบนที่ส่วนตัวหมอจะไม่แนะนำ เพราะ ตามปกติแล้วบริเวณริมฝีปากจะเป็นกล้ามเนื้อ กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมากกว่าไขมัน หากต้องการฉีดไขมันปาก แนะนำให้ตกแต่งรูปทรงด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือการผ่าตัดทำปากกระจับไปเลยจะได้ตรงจุดมากกว่า
ฉีดไขมัน จมูก แทนการเสริมจมูกได้หรือไม่
ถ้าพูดจากในมุมมองของหมอที่ผ่าตัดเสริมจมูกอยู่แล้วคงต้องบอกว่าไม่สามารถทดแทนกันได้ค่ะ เพราะทรงที่ได้จากการฉีดไขมันนั้นก็จะไม่เหมือนกับการผ่าตัดเสริมจมูก และมักจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อเทียบกับการฉีดไขมันที่หน้าตามปกติ บางคนอยากใช้ไขมันเพื่อแก้ปัญหาจมูกบุ๋ม หมอเองก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นการฉีดค่ะ เพราะไขมันแบบฉีดนั้นจะยุบเยอะเมื่อเทียบกับการใช้ไขมันแบบก้อน ดังนั้นแล้วหมอเลยไม่เลือกใช้การฉีดไขมันเพื่อฉีดจมูก หรือแก้ปัญหาจมูกบุ๋ม เพราะไม่ถาวรค่ะ
เทคนิคในการฉีดไขมันมีกี่แบบ
โดยทั่วไปแล้วเทคนิคในการฉีดไขมันนั้นมีหลายวิธีเลยค่ะ แตกต่างกันตั้งแต่ขั้นตอนในการเตรียมไขมันหรือการดูดไขมันเลยค่ะ เพราะการดูดไขมันที่แตกต่างกันก็ส่งผลถึง เปอร์เซ็นการอยู่รอดของไขมันที่แตกต่างกันด้วยค่ะ คุณหมอบางท่านก็จะเลือกใช้เครื่องช่วยในการดูดไขมัน บางท่านก็เลือกใช้ เข็มหรือการดูดมือ ก็มีค่ะ แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ไม่ได้มีวิธีไหนที่ดี 100% ขึ้นอยู่กับความชำนาญของคุณหมอแต่ละท่านไปค่ะ
วิธีดูดไขมันที่แตกต่างกันแล้ว การเตรียมแยกไขมันก็มีความแตกต่างกันอีกค่ะ หมอบางคนดูดมาแล้ว ฉีดกลับเลยไม่ปั่นแยกก็มี บางคนก็ฉีดมาแล้วปั่นแยก ใส่น้ำยาแยกเอาไปเพาะเลี้ยงต่ออีกก็มีค่ะ ทำให้เราไม่สามารถแยกวิธีการฉีดไขมันออกเป็นแต่ละแบบได้ก็เพราะรายละเอียดที่แตกต่างกันยิบๆย่อยๆพวกนี้แหล่ะค่ะ
นอกจากการดูดไขมัน การเตรียมแยกไขมันต่างกันแล้ว การฉีดไขมันก็ต่างกันอีกค่ะ
เทคนิคแต่ละคน เข็มที่ใช้ในการฉีดก็มีผลต่อการติดของไขมัน Fat survival แทบทั้งสิ้นค่ะ ของแบบนี้อยู่ที่ความละเอียดล้วนๆค่ะ ซึ่งรายละเอียดตรงนี้นี่เองที่หมออยากจะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของความแตกต่างค่ะ
ใครที่บอกว่าฉีดไขมันแล้วไม่ได้ผล อยากให้อ่านมาถึงตรงนี้จริงๆนะคะ แค่เทคนิคก็ต่างกันเป็นหลายแบบขนาดนี้ นี่หมอยังไม่ได้พูดถึงคุณภาพของไขมันคนไข้เองเลยนะคะเนี้ย ถ้าให้ไล่เรื่องคุณภาพไขมันนี่ น่าจะอีกยาวเลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากรู้ทักมานะคะ ไว้จะอธิบายเพิ่มให้ฟังค่ะ
ฉีดไขมัน หน้าบวมกี่วัน
โดยส่วนใหญ่แล้วหลังจากการฉีดไขมัน กว่าจะเข้าที่ หรือยุบบวมดีนั้นจะอยู่ที่ 2-3 เดือนโดยประมาณ แต่ช่วงที่จะบวมมากๆนั้นจะอยู่ราวๆ 2-3 วันและเริ่มยุบลง โดยทั่วไปประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะอยู่ในช่วงที่คนไข้ชอบผลลัพธ์มากที่สุดค่ะ เพราะว่า ในการฉีดไขมัน เราไม่สามารถฉีดไขมันแล้ว ไขมันติดได้ 100 % ตามที่เราต้องการทั้งหมดค่ะ
เนื่องจาก กระบวนการต่างๆ ในระหว่างที่เราดูดไขมัน แยกไขมัน หรือตอนฉีดไขมันก็จะมีไขมันที่ตายไปบางส่วน ทำให้ส่วนใหญ่แล้วไขมันจะติดอยู่ที่ ประมาณ 60-70% โดยประมาณ กรณีที่อยากจะได้ผลลัพธ์มากกว่านี้สามารถฉีดรอบที่ 2 ได้ค่ะ อาจจะรอดูที่ 2-3 เดือนหลังจากการฉีดรอบแรกไปแล้วก็ได้ค่ะ
ซึ่งเปอร์เซ็นไขมันที่ติดนี้ หมอสามารถเพิ่มได้ค่ะ โดยการใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ เช่น การทำ PRP Fat หรือการทำสเต็มเซลล์ไขมัน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ไขมันติดได้ดีขึ้น เหมาะกับคนไข้กลุ่มที่อายุเยอะนิดนึงที่ไขมันคุณภาพด้อยลงกว่าสาวๆ เป็นต้นค่ะ
อาจมีคำถามว่าทำไมหมอถึงไม่ฉีดเผื่อไปเลยล่ะ ในเมื่อมันต้องยุบอยู่แล้ว
เราไม่สามารถเผื่อได้มากอย่างที่เราต้องการค่ะ เพราะพื้นที่ที่จำกัด เลือดที่มาเลี้ยงก็จำกัด ออกซิเจนที่จะมาเลี้ยงไขมันก็จำกัด ทำให้การฉีดมากเกินไปนั้นส่งผลให้ไขมันตายมากกว่าเดิมได้ค่ะ และไม่เป็นผลดีเลยอย่างการฉีดไขมันหน้าอก กรณีที่ฉีดมากเกินกว่าพื้นที่หน้าอกจะรับได้นั้น ทำให้เกิดผลเสียอย่างการเป็นแคลเซียมที่หน้าอกเพิ่มขึ้นทำให้การอ่านผลแมมโมแกรมคาดเคลื่อนได้ เป็นตัวอย่างว่าทำไมเราถึงไม่สามารถฉีดไขมันเผื่อปริมาณมากๆได้ค่ะ
ตัวอย่างคนไข้ที่ฉีดไขมันกับหมอปี โดยทั่วไปจะบวมอยู่ประมาณ 7-10 วัน หลังจากนั้นก็จะเริ่มเข้าที่
1.มีโอกาสติดเชื้อได้ จะพบมากในกรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน
ปัจจุบันไม่แนะนำให้ฉีดไขมันทับบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อนค่ะ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบติดเชื้อฟิลเลอร์เดิมที่เราเคยฉีดมาแล้ว ซึ่งไม่ว่าจะเคยฉีดมานานแค่ไหน หรือฉีดชนิดไหนมาก่อนก็มีความเสี่ยงในเรื่องนี้เท่ากันหมดค่ะ ดังนั้นคือ กรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหนมาก่อน ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันทับในตำแหน่งนั้นค่ะ
2.ฉีดไขมัน ตาบอด ได้
อาจจะเคยได้ยินว่ามีคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เช่นเดียวกัน ไขมันถึงแม้จะเป็นของของเรา ปัญหาเรื่องการแพ้อาจจะไม่มี แต่กรณีที่ไปอยู่ผิดที่ก็เป็นผลเสียได้เช่นเดียวกัน คือ กรณีที่ฉีดไขมันเข้าเส้นเลือดก็มีโอกาสที่ทำให้เกิดเนื้อตายได้
หรือทำให้เกิดตาบอดได้ถ้าไขมันเข้าไปอุดที่เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงลูกตา
3.ฉีดไขมันไม่จบในครั้งเดียว
โดยทั่วไปแล้วการฉีดไขมันนั้นไขมันจะติดเพียง 60-70% ทำให้อาจจะยังไม่ได้ผลเท่าที่ต้องการอาจจะต้องเติมไขมันอีกรอบหนึ่งอย่างน้อยเพื่อช่วยให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับที่ต้องการ ดังนั้นข้อนี้ไขมันอาจจะเป็นอันตรายกับกระเป๋าตังคนไข้ได้นะคะ จริงๆข้อนี้คือแค่อยากจะย้ำเตือนเรื่องผลจากการฉีดไขมันมากกว่าค่ะ
ฉีดไขมันอยู่ได้นานไหม
การฉีดไขมัน จะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งเป็นช่วงที่ไขมันติดดีแล้วคือ 2-3 เดือนขึ้นไป กรณีที่ดูรีวิวแนะนำว่าให้ดูรีวิวคนไข้ที่ฉีดไขมันไปเป็นเวลานานแล้ว เพราะเมื่อเติมไขมันแรกๆ หน้าอาจจะยังบวมอยู่ยังไม่ใช่ผลลัพธ์จริง ควรดูตอนที่หน้าเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อไขมันติดแล้วติดเลย จะเปลี่ยนแปลงตามน้ำหนักตัวของเราได้หมายถึงว่าถ้าน้ำหนักตัวมากขึ้น ไขมันที่หน้าเราอาจจะเพิ่มจำนวนตามได้ หรือถ้าน้ำหนักลดลง ไขมันที่หน้าเราก็อาจจะยุบลงตามไปด้วยได้ แต่ถ้าน้ำหนักตัวเท่าเดิม ไขมันก็จะอยู่คงที่
ก่อนและหลังการฉีดไขมันหน้าควรเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนการฉีดไขมันหน้าควรเตรียมตัวดังนี้
งดอาหารเสริม งดยาในกลุ่ม แอสไพริน หากรับประทานยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดต้องแจ้งให้คุณหมอทราบ
งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 อาทิตย์
ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะคนไข้ที่ผอม ควรทานอาหารที่ดี มีไขมันดีเพื่อช่วยให้มีไขมันไว้เติม
ไม่ควรทำหัตถการอะไรที่รบกวนไขมัน เช่นการนวดกระชับสัดส่วน หรือการใช้เครื่องกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณที่จะทำการย้ายไขมันไปใช้
หลังการฉีดไขมันหน้า ควรปฏิบัติตัวดังนี้
งดนวดหน้าหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดไขมันไป
งดการทำทรีตเม้นท์และเลเซอร์หน้า
งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์
งดประคบเย็นหรือประคบร้อน เพื่อลดการรบกวนไขมันที่ทำการย้ายไป
ทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ไขมันติดได้ดีขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ
งดออกกำลังกายที่ลดไขมันในร่างกาย
คนไข้แบบไหนที่เหมาะกับการฉีดไขมันหน้า
คนไข้ที่มีไขมันส่วนเกินที่ร่างกายเล็กน้อย ร่วมกับมีปัญหารูปหน้าเช่น แก้มตอบ ใต้ตาลึก หน้าผากแบน ขมับตอบ มีร่องแก้ม ปัญหาเหล่านี้เหมาะกับการแก้ไขด้วยการฉีดไขมัน
คนไข้แบบไหนที่ไม่เหมาะกับการฉีดไขมันหน้า
คนไข้ที่มีรูปร่างผอมเกินไป ไม่มีไขมันส่วนเกิน หรือคนไข้ที่อวบมากๆ กรณีนี้มักจะไม่มีปัญหาเรื่องใบหน้าที่ขาดวอลลุ่ม
คนไข้ที่มีปัญหารูปหน้าเล็กน้อย เช่น ใต้ตาลึกอย่างเดียว เพราะอาจจะทำให้ต้องเจ็บตัวหลายที่ เพื่อนำไขมันมาแก้ปัญหาแค่จุดเดียว
คนไข้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่ต้องการฉีดไขมันก็เป็นคนไข้อีกกลุ่มที่ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันทับเพราะอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อได้
เปรียบเทียบการฉีดไขมันหน้า กับการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
โดยทั่วไปแล้วเวลาที่เราฉีดไขมันทั่วหน้านั้นจะทำให้เคสที่มีปัญหารูปหน้าหลายส่วน เพื่อที่จะให้คุ้มค่ากับการที่เจ็บตัวเพื่อดูดไขมันมาใช้ แต่ในกรณีที่เราฉีดฟิลเลอร์นั้นจะได้เรื่องความสะดวกสบายไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จกลับบ้านได้เลย ส่วนการฉีดไขมันนั้นจะมีช่วงที่บวม ระบบหลังการดูดไขมันต้องมีระยะพักฟื้นยังไม่สวยทันใจ
ทั้งสองอย่างนี้สามารถแก้ไขปัญหารุปหน้าได้ใกล้เคียงกัน แต่ฟิลเลอร์จะมีหลายยี่ฮ้อ หลายขนาด สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาสภาพผิวได้ จะเป็นข้อแตกต่างจากไขมันที่เน้นในการปรับรูปหน้าเป็นหลักไม่สามารถฉีดที่ผิวตื้นๆเพื่อเน้นเรื่องผิวได้แม้จะใช้เทคนิคการฉีดไขมันนาโนแล้วก็ตาม ดังนั้นหากต้องการเน้นเรื่องผิว การฉีดไขมันอาจแก้ไขได้ไม่ตรงจุดนัก
ทั้งสองอย่างมีโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่าง การอุดตันในเส้นเลือดได้ ซึ่งฟิลเลอร์มีตัวยาที่ใช้ในการสลายแตกต่างจากไขมันที่ไม่มียาสลาย จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ค่าใช้จ่ายในการฉีดไขมันจะถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์เมื่อเปรียบเทียบตามปริมาณยาที่ใช้ในการฉีด ดังนั้นแล้วถ้าในความคุ้มค่า ถ้ามีปัญหารูปหน้าหลายอย่างอาจเลือกฉีดไขมันก่อนแล้วค่อยเก็บรายละเอียดด้วยฟิลเลอร์ทีหลังได้ หรือจะเลือกเติมไขมัน 2 รอบก็ได้เช่นกัน
รีวิวฉีดไขมันหน้า กับหมอปี
ฉีดไขมันหน้า ราคา เท่าไหร่
สำหรับที่ Estique Clinic หมอปี จะเลือกใช้เทคนิคการฉีดไขมันหน้าแบบ PRP fat เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการฉีดไขมัน
ทำให้ไขมันติดได้ดีขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ไขมันอยู่ที่ 40 ซีซีขึ้นไป (เป็นไขมันที่ปั่นแยกแล้ว)
ฉีดไขมันทั่วหน้ากับหมอปี เริ่มต้นที่ 49,999 บาท ไม่จำกัด ซีซี (คุณหมอจะเป็นคนประเมินไขมันที่จะใช้ในการฉีดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพหรือเน้นให้ไขมันติดดีที่สุด)